การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

สรุปการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาโดยตรง เนื่องจากมีการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน เช่น การพิมพ์งานเอกสารต่างๆ การคีย์ข้อมูลลงในโปรแกรมต่างๆ การทำเอกสารนำเสนอ โดยโปรแกรม Microsoft office,การคีย์ข้อมูลลงในโปรแกรมของทางโรงพยาบาลพญาไท เช่น โปรแกรม TA คือ การคีย์โปรแกรมใบลาหยุดงานของพนักงานในพญาไทและโปรแกรม ORACLE เป็นโปรแกรมคีย์คะเเนนประเมินการปฏิบัติงานของพนักงานในโรงพยาบาลพญาไท เป็นต้น

ประโยชน์ที่ได้รับ
-ได้ประสบการณ์ใหม่ๆที่ดี
-สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
-เรียนรู้การทำงานอย่างเป็นระบบ
-มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
-การปรับตัวเข้าหาเพื่อนใหม่
-ได้ฝึกความอดทนในการทำงาน

สิ่งที่หลักสูตรควรปรับปรุง
-

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 18

วันที่ 28กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554

การปฏิบัติงาน

-เดินเอกสารไปส่งที่ฝ่ายยานพาหนะ อาคารลานจอดรถ

-ถ่ายเอกสารคู่มืออำนาจดำเนินการ

-นำเอกสารคู่มืออำนาจดำเนินการ ไปเข้าเล่มสันกระดูกงู

-คัดเเยกเอกสารและประทับวันที่

-นำเอกสารของพนักงาน เข้าแฟ้มประวัิติของพนักงาน

-คีย์ใบลาหบุดลงในโปรแกรม EXCEL & TA

ปัญหาที่พบ

-

แก้ไขปัญหา

-

ประโยชน์ที่ได้รับ

-มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

-เรียนรู้การทำงานอย่างเป็นระบบ

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 17

วันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554


การปฏิบัติงาน

-คัดแยกเอกสารเเละประทับวันที่
-คีย์ใบลาหยุดงาน ลงในโปรแกรม TA จำนวน 68 ใบ
-คีย์ใบลาหยุดงาน ลงในโปรแกรม EXCEL จำนวน 46 ใบ
-นับจำนวนเสื้อโปโล WE BEFORE ME คละไซส์ คละสี
-ขนย้ายเสื้อ เพื่อไปร่วมกิจกรรม "HAPPY BIRTHDAY WE BEFORE ME"
-เดินเอกสาร
-นำใบลาหยุดงาน แยกประเภทแล้วนำเข้าแฟ้ม
-นำเอกสารของพนักงานเข้าแฟ้มพนักงาน
-จัดห้องสต๊อกเสื้อให้เป็นระเบียบ
-สำเนาเอกสาร
-ฉีกบัตรประกันสังคม แล้วแบ่งตามแผนก
-เดินเอกสารไปสรรพากร ที่อาคารปิยวรรณ ตรงอารีย์
-เดินเอกสารไปธนาคารกสิกร สนามเป้า
-พิมพ์รายชื่อพนักงานให้มารับบัตรพนักงานเพื่อนำลงไปประกาศ
-พิมพ์รายชื่อใบประเมินพนักงาน
-คีย์ชื่อภาษาอังกฤษของพนักงาน ลงในโปรแกรม ORACLE
-ไปออกบูธงาน JOB FAIR รับสมัครพยาบาลวิชาชีพที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
-ตั้งบูธจัดสถานที่ เพื่อรับสมัครงาน
-เมื่อมีนักศึกษามา แจกนามบัตรโรงพยาบาลและพูดเเนะนำเชิญชวนด้วยใบหน้าที่ยิ้มเเย้ม
-ให้นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ลงทะเบียน
-แนะนำเเละตอบคำถามในสิ่งที่นักศึกษาสงสัย
-จัดเก็บบูธ ดูเเลสถานที่
-ขนของกลับโรงพยาบาล




ปัญหาที่พบ
-ในการหารายชื่อพนักงาน บางคนป็นข้อมูลเก่า ทำให้ไม่พบชื่อภาษาอังกฤษ
-หาSizeเสื้อไม่เจอ
-คอมพิวเตอร์ของตนไม่มีโปรแกรม ORACLE ต้องรอคีย์เครื่องพี่
-แนะนำเเละตอบคำถามในงานJOB FAIR ได้บางส่วน




แก้ไขปัญหาโดย
-นำมาเขียนเอง สะกดตามชื่อภาษาไทยของพนักงาน
-สอบถามพี่
-ในขณะที่คีย์งานไม่ได้ มาทำงานอื่นแทน
-ให้พี่เเนะนำแล้วคอยฟัง เพื่อทราบข้อมูล



ประโยชน์ที่ได้รับ
-ได้รับประสบการณ์ที่ดี

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 16

วันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554

การปฏิบัติงาน

-คีย์ใบประเมินผลการเรียนประจำปีของระดับปฏิบัติการ

-คัดเเยกเอกสารและประทับวันที่

-คีย์ใบลาหยุดงานลงในโปรแกรม TA จำนวน 61 ใบ

-คีย์ใบลาหยุดงานลงในโปรแกรม EXCEL จำนวน 33 ใบ

-เดินเอกสาร

-คัดเเยกเอกสาร

-นำใบประเมินการปฏิบัติงานประจำปีของระดับปฏิบัติการเข้าเเฟ้มพนักงานตามรายชื่่อ

-ไปทำที่สรรหา ต้อนรับผู้สมัครงาน

-ตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้อง

ปัญหาที่พบ

-ทำกระดาษติดที่เครื่องเอกสาร

แก้ไขปัญหาโดย

-ดึงกระดาษออกเเล้วเปิดปิดเครื่องใหม่

-ประโยชน์ที่ได้รับ

-ฝึกความรอบคอบ

-ได้รับความรู้ ความสามารถเเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 15

วันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554

การปฏิบัติงาน

-ไปออกบูธงาน JOB FAIR ที่มหาวิทยาลัยหอการค้า เพื่อรับสมัครงาน

-เเจกใบปลิวระบุตำเเหน่งงานว่าง

-ตอบคำถาม เเละอธิบายเมื่อผู้สมัครมีข้อสงสัย

-เเจกใบสมัคร

-ตรวจสอบข้อมูลใบสมัคร เเละหลักฐาน

-ให้ผู้สมัครทำทดสอบเเละัจับเวลา

-เก็บบูธดูเเลความเรียบร้อย

-คีย์ข้อมูลผู้สมัครเพื่อเเยกประเภท

-ต้อนรับผู้มาสมัครงาน คอยดูเเล เเละเเนะนำ

-สำเนาเอกสาร จำนวน 44 ใบ

-เดินเอกสาร

-จัดของขึ้นรถไปออกบูธ

ปัญหาที่พบ

-บางคำถามที่ผู้สนใจสมัครงานถาม ไม่สามารถตอบได้ครบถ้วนสมบูรณ์

แก้ไขปัญหาโดย

-นำปัญหาที่เราไม่ทราบ มาถามพี่เพื่อเป็นข้อมูล

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ฝึกความกล้าแสดงออก

-ได้รับความรู้ ความสามารถเเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 14

วันที่ 31มกราคม-4กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554

การปฏิบัติงาน

-เรียนงานที่ฝ่ายสรรหา(ได้รับคำเเนะนำเกี่ยวกับการให้สมัครกับผู้ที่สนใจ)

-คอยตรวจสอบเอกสาร เพื่อความถูกต้องครบถ้วน

-นำข้อสอบให้ผู้ที่มาสมัครงานทดสอบ

-สำเนาเอกสาร จำนวน 32 ใบ

-เดินเอกสาร

-ช่วยพี่ย้ายสิ่งของเพื่อจัดโต๊ะใหม่ภายในห้อง

-ให้พนักงานที่มาปฐมนิเทศลงทะเบียน

-เดินพาพนักงานที่มาปฐมนิเทศไปห้องประชุม

-นำใบสมัครงานไปสำเนา

-ตรวจสอบใบสมัครงาน และเอกสารเเนบ ของผู้ที่มาสมัคร

-ให้ผู้ที่สมัครลงทะเบียน

-นำข้อสอบให้ผู้ที่มาสมัครทดสอบพร้อมจับเวลา

-เตรียมน้ำเเละสถานที่เพื่อให้สัมภาษณ์

-คีย์ข้อมูลพนักงาน เพื่อเเบ่งเป็นประเภทๆตามตำเเหน่งงานที่ได้สมัคร

-เมื่อมีผู้มาสมัครงาน คอยต้อนรับเเละเเนะนำให้ผู้สมัครกรอกใบสมัครงานพร้อมเเนบเอกสารเเละให้ลงทะเบียน

-ตรวจเอกสารต่างๆเพื่อความถูกต้องของผู้สมัคร

-สแกนเอกสาร save เป็น jpeg จำนวน 24 แผ่น

-นัดสัมภาษณ์กับพี่

-ต้อนรับผู้มีนัดสัมภาษณ์

-ตรวจสอบรายชื่อ

ปัญหาที่พบ

-ข้อมูลบางอย่างจำไ้ด้ไม่ครบถ้วน

-ความรู้ในการทำงานต้องเพิ่มเติม

แก้ไขปัญหาโดย

-จดบันทึกข้อมูลตามที่พี่บอกและทำตามความเเนะนำ ปฏิบัติตามให้ถูกต้อง

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ได้ฝึกการพูดคุยกับผู้อื่นให้ถูกต้อง

-ได้รับความรู้ ความสามารถเเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 13

วันที่ 24-28 มกราคม พ.ศ. 2554

การปฏิบัติงาน

-คัดเเยกประเภทเอกสารเเละประทับวันที่

-สำเนาเอกสาร จำนวน 48 ใบ

-ส่งเอกสาร

-ฉีกใบเเจ้งเงินเดือน/ค่าล่วงเวลา

-ฉีกหนังสือรับรองการหักภาษี หัก ณ ที่จ่าย ของพนักงานในโรงพยาบาลพญาไท

-นำซองเอกสารที่ใส่เอกสารของพนักงานมาประทับตรา CONFIDENCIAL ทั้งหน้าเเละหลังของซอง

-นำเอกสารใส่ซองเเล้วปิดผนึก พร้อมที่จะเเบ่งเเยกเป็นแผนกไว้

-นำเอกสารของเเต่ละแผนก จัดใส่ซองใหญ่สีน้ำตาล แล้วเดินจัดส่งเอกสารตามแผนก

-ไปออกบูธงาน JOB FAIR ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัญฑิตย์ นำชั้นวางเเละเหล็กไปตั้งเป็นบูธของโรงพยาบาลพญาไท 2 เพื่อรับสมัครงาน

-เก็บบูธรอรถมารับ

ปัญหาที่พบ

- ปิดผนึกซองผิดวิธี

-ไปออกบูธ ยังไม่สามารถตอบคำถามบางคำถามที่ผู้สนใจสอบถามได้

แก้ไขปัญหาโดย

- สอบถามพี่กับปัญหาต่างๆที่สงสัยเพื่อความถูกต้อง

-สอบถามพี่เกี่ยวกับข้อมูลและทำการจดบันทึกไว้

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ได้รับความรู้ ความสามารถเเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

-ฝึกการคิดวิเคราะห์การทำงานอย่างเป็นระบบ

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 12

วันที่ 17-21 มกราคม พ.ศ.2554

การปฏิบัติงาน

-คัดเเยกเอกสารเเละประทับวันที่

-คีย์คะเเนนประเมินพนักงานจากแฟ้มประเมินพนักงานลงในโปรเเกรม ORACLE

-สำเนาเอกสาร

-คัดเเยกเอกสารประเภทใบลานำเข้าแฟ้มประจำเดือน

-เดินส่งเอกสาร

-นำตัวหนับติดในป้ายชื่อพนักงาน

-พิมพ์รายชื่อผู้ที่ได้บัตรพนักงานใน MICROSOFT WORD

-คีย์ใบลาพักร้อน,ลากิจ,ลาป่วย ลงในโปรเเกรม MICROSOFT EXCLE และ TA

-แยกประเภทใบลาจัดเก็บตามเดือน

-ถ่ายสำเนาเอกสาร

-นำข้อมูลพนักงานใหม่ มาจัดทำแฟ้มประวัติพนักงาน

-คัดเเยกใบประเมินออกตามรายชื่อเตรียมจัดเข้าเเฟ้มประวัติ

-ฉีกแบ่งใบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยูโอบี มาสเตอร์ฟันด์ ออกแบ่งจัดเป็นแผนก

ปัญหาที่พบ

- คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ต้องลง window ใหม่ จึงทำให้ไม่มีใช้งาน

- ใบลาไม่สามารถคีย์ได้ เพราะไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้งาน จึงทำให้ใบลาค้าง

แก้ไขปัญหาโดย

- รอใช้เครื่องคอมของพี่และให้พี่ช่วยคีย์ใบลาที่ค้างและทำงานอื่นแทน

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ฝึกความรับผิดชอบแก่ตัวเอง

-ได้รับความรู้ ความสามารถเเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 11

วันที่10-14 มกราคม พ.ศ. 2554

การปฏิบัติงาน

-คีย์ใบลาพักร้อน,ลาป่วย,ลากิจ,ลงในโปรเเกรม MICROSOFT EXCEL จำนวน 45 ใบ และคีย์ในโปรเเกรม TA จำนวน24 ใบ

-คีย์คะเเนนประเมินพนักงานจากแฟ้มประเมิน35ใบ

-ถ่ายสำเนาเอกสาร จำนวน 6 ใบ

-คัดเเยกเอกสารและประทับวันที่

-เดินเอกสารเบิกเงินที่แผนกการเงินที่อาคาร 1 ชั้น 6

-แต่งรูปพนักงานใน PHOTOSHOP จำนวน 32 คน

-ทำสมุดสุขภาพจำนวน 50 ชุด

-จัดเก็บของและเเฟ้มประวัติที่ไม่ใช้ลงกล่อง

ปัญหาที่พบ

-ทำกระดาษติดที่่เครื่องเอกสารทำให้ถ่ายเอกสารต่อไม่ได้

-พิมพ์ใบลาผิดพลาด

-แฟ้มที่มีข้อมูลอยู่ไม่สามารถจัดลงกล่องได้

แก้ไขปัญหาโดย

-ดึงกระดาษออกแล้วอ่านวิธีเครื่องถ่ายเอกสารต่อไป

-เข้าไปแก้ข้อมูลในระบบใบลาและเพิ่มความรอบคอบให้มากขึ้น

-ให้พี่ดูเอกสารที่สำคัญก่อนจะลงกล่อง

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ได้รับความรู้ ความสามารถเเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 10

วันที่ 4-7 มกราคม พ.ศ. 2554


การปฏิบัติงาน
-คัดเเยกเอกสารและประทับวันที่
-ถ่ายเอกสาร จำนวน 89 ชุด
-เดินเอกสาร
-คีย์ใบลาพักร้อนลงใน TA เเละ MICROSOFT EXCEL จำนวน 67 ใบ
-คีย์คะเเนนประเมินพนักงานลงในโปรแกรม ORACLE จำนวน 32 ใบ
-สำเนาเอกสาร
-แต่งรูปใน PHOTOSHOP
-คัดลอกใบประกันสังคม
-บรรจุเอกสารลงซองพร้อมจัดส่ง


ปัญหาที่พบ
-ในการบรรจุเอกสารเพื่อจัดส่งตามแผนก ใช้เวลาทำเป็นเวลานาน


แก้ไขปัญหาโดย
-ตรวจสอบความถูกต้องเเละเร่งเวลาทำ


ประโยชน์ที่ได้รับ
-ได้รับความรู้ ความสามารถเเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 9

วันที่ 27-30 ธันวาคม พ.ศ.2553

การปฏิบัติงาน

-คีย์ใบลาขาดงานในโปรแกรม TA 52 ใบ

-คีย์คะเเนนประเมินพนักงาน

-ฉีกใบสลิปเงินเดือน ออกเเล้วแบ่ง แยกเป็นแผนก นำเข้าไปซอง

-นำใบลาเข้าแฟ้ม

-ถ่ายเอกสาร 14 ใบ

-เดินส่งเอกสาร

-นำเอกสารเข้าแฟ้มรายชื่อพนักงาน

-คีย์คะเเนนประเมินพนักงานลงในโปรเเกรม ORACLE จำนวน 122 ใบ

-คัดเเยกประเภทเอกสาร

-นำเอกสารที่ไม่ใช้เเล้วไปทำลาย

-นำใบประเมินออกจากแฟ้ม

-แก้ไขคู่มือการบริหารว่าด้วยการมอบอำนาจเพิ่มเติม

ปัญหาที่พบ

-ในการคีย์คะเเนนประเมินพนักงานลงในโปรเเกรม ORACLE ยัังไม่สามารถทำตามขั้นตอนการคีย์คะเเนนได้อย่างเเม่นย

แก้ไขปัญหาโดย

-ทำตามความเเนะนำของพี่ และจดบันทึกเพื่อความเเม่นยำ

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ได้รับความรู้ ความสามารถ เเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มมากขึ้น

-ได้ีู้รู้จักการทำงานเป็นทีม คอยช่วยเหลือกันในเวลาทำงาน

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 8

วันที่ 20-24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การปฏิบัติงาน

-คีย์ใบลาขาดของพนักงานในโรงพยาบาลพญาไท2 ใน TA และใน MICROSOFT EXCEL จำนวน 78 ใบ

- สรุปรายงานคะเเนนประเมินลงใน POWERPOINT

-เดินเเจกของขวัญวันปีใหม่แก่พนักงาน

-นำใบลาจัดเก็บเข้าแฟ้ม

-คีย์คะเเนนประเมินของพนักงาน

-พิมพ์ใบหลักเกณฑ์ในการดำเนินการโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด,หลักเกณฑ์การให้ส่วนลดด้านการรักษาพยาบาล,แนวทางเเละค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด

-แก้ไข คู่มือการบริหารว่าด้วยการมอบอำนาจ

ปัญหาที่พบ

-ในการแก้ไข คู่มือการบริหารว่าด้วยการมอบอำนาจว่าต้องแก้หลายครั้ง

แก้ไขปัญหาโดย

-คอยตรวจสอบบ่อยๆเเละเพิ่มความรอบคอบในการทำงานให้มากขึ้น

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ได้ความรู้เเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มมากขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 7

วันที่13-17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การปฏิบัติงาน

-คีย์ใบลาขาดลาของพนักงานลงในโปรเเกรม MICROSOFT EXCEL และ TA จำนวน 88 ใบ

-แต่งรูปพนักงานใน PHOTOSHOP

-จัดเเยกประเภทเอกสารเข้าแฟ้มเเล้วเขียนรายชื่อลงบนเเฟ้ม

-เดินส่งเอกสาร

-คีย์คะเเนน+เกรด+ข้อคิดเห็น จากแบบประเมินประจำปี 2553 จำนวน 72 ใบ

ปัญหาที่พบ

-คีย์ใบลาผิดพลาด

แก้ไขโดย

-เพิ่มความรอบคอบในการทำงานให้มากขึ้นเพื่อป้องกันความผิดพลาดของข้อมูล

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ได้รับความรู้เเละประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 6

วันที่ึ 6- 10 ธันวาคม พ.ศ.2553

การปฏิบัติงาน

-คีย์ใบลาหยุดงานของพนักงานในโปรเเกรม MICROSOFT EXCEL และ TA

- เขียนบันทึกรายชื่่อพนักงานจากใบลาออก,ใบเบิกค่าล่วงเวลา,ใบสมัครกองทุน UOB

-เดินสำรวจจำนวนคนตามแผนกในโรงพยาบาลพญาไท 2

-ทำใบรายชื่อนำไปจับฉลาก จำนวน 1,300 ชื่อ

-เพิ่มรายชื่อผู้เดือดร้อนจากการประสบภัยน้ำท่วม

ปัญหาที่พบ

-ใบรายชื่อที่จับฉลาก มีจำนวนไม่ครบกับพนักงานในโรงพยาบาลพญาไท

แก้ไขโดย

-ตรวจสอบรายชื่อของพนักงานโรงพยาบาลพญาไท ก่อนที่จะนำไปทำฉลาก

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ฝึกความรอบคอบ

-ฝึกการแก้้ไขปัญหาด้วยตนเอง

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 5

วันที่ 29-3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การปฏิบัติงาน

-คีย์ใบลาขาดงาน ลงในโปรเเกรม TA และ MICROSOFT EXCEL จำนวน 127 ใบ

-เดินเอกสาร

-แบ่งประเภทใบลาและจัดเก็บเข้าแฟ้มประจำเดือน

-ตรวจสอบการรายงานสิทธิ์พักร้อนของพนักงานโรงพยาบาลพญาไท 2 จาก MICROSOFT EXCEL

-ถ่ายเอกสาร 55 ใบ

-ถ่ายรูปพนักงานใหม่ เพื่อนำมาทำบัตรพนักงาน

-แต่งรูปพนักงานโปรแกรม PHOTOSHOP จำนวน 30 คน

-เพิ่มข้อมูลในรายชื่่อผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วมลงในโปรแกรม MICROSOFT EXCEL จำนวน 2 คน

ปัญหาที่พบ

-แต่งรูปในโปรแกรม PHOTOSHOP ได้ช้า เพราะเครื่่องคอมไม่ค่อยดี

แก้ไขโดย

-ย้ายเปลี่ยนเครื่องไปใช้เครื่องพี่แทน เวลาที่เครื่องว่าง

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ฝึกความรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 4

วันที่ 22-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การปฎิบัติงาน

-คีย์ใบลาหยุดงานลงในโปรแกรม EXCEL & TA

-ถ่ายเอกสาร

-คัดเเยกเอกสารและประทับวันที่

-แต่งรูปพนักงานในโปรแกรม PHOTOSHOP

-พิมพ์รายละเอียดผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพิ่มลงในโปรแกรม MICROSOFT EXCEL

-แบ่งประเภทใบลา จัดเข้าแฟ้มตามเดือน

ปัญหาที่พบ

-ไม่ทราบวิธีถ่ายเอกสาร แบบ 2 หน้าในครั้งเดียวได้หลายใบ

-ยังมีปัญหาบ้างในการพิมพ์งานใน EXCEL

-ไฟล์รูปพนักงานที่แต่งเสร็จและจัดเก็บแล้วแต่ข้อมูลหาย

แก้ไขโดย

-สอบถามวิธีถ่ายเอกสารให้ถูกต้อง

-สอบถามพี่แล้วนำกลับไปฝึกฝน

-แต่งรูปหนักงานใหม่แล้วจัดเก็บไว้2ที่

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ฝึกความรอบคอบในการทำงาน

-เพิ่มความรู้และประสบการณ์ที่ดีให้กับตัวเอง

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 3

วันที่ 15-19 พฤศจิกายน 2553

การปฎิบัติงาน

-คีย์ใบรายงานการขาดลามาสายของพนักงานในโรงพยาบาลพญาไท2 ลงในโปรแกรม EXCEL & TA

-แยกใบลาเป็นประเภทแล้วจัดเก็บเข้าแฟ้มตามเดือน

-ตัดรายชื่อพนักงานทีเข้าร่วมสัมมนาแล้วนำใส่ป้ายพลาสติก

-ถ่ายเอกสาร

-ตรวจสอบรายชื่อซองที่บรรจุสถิติการขาดลามาสาย

-เดินเอกสาร

-พิมพ์รายละเอียดตามข้อมูลของผู้ที่เดือดร้อนจากการประสบภัยน้ำท่วม

-แต่งรูปพนักงานโรงพยาบาลพญาไท2 เพื่อนำไปเป็นรูปติดบัตรประจำตัว

ปัญหาที่พบ

-ซองพลาสติกที่นำมาใส่ป้ายชื่อ มีจำนวนไม่ครบกับป้ายชื่อ

-ทำงานได้ล่าช้า

แก้ไขโดย

-นำซองที่ชำรุดเล็กน้อยมาซ่อมแซมเพื่อนำกลับไปใช้งานต่อ

-เพิ่มความเร็วในการทำงานแต่ต้องละเอียดและรอบคอบด้วย

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ได้รับความรู้เพิ่มเติมและประสบการณ์ที่ดีในการทำงาน

-ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 2

วันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2553

การปฎิบัติงาน

-คีย์ใบรายงานการสายขาดลา ของพนักงานในโรงพยาบาลพญาไท2

ลงในโปรแกรม MICROSOFT EXCEL & TA

-แต่งรูปพนักงานเพื่อใช้เป็นรูปในบัตรพนักงานโดยโปรแกรม PHOTOSHOP

-เขียนรายชื่อจากใบเบิกค่าล่วงเวลาลงในสมุดบันทึก

-คัดแยกเอกสาร

-เดินเอกสาร

-ตรวจสอบเอกสาร

-ถ่ายสำเนาเอกสาร

-ตรวจสอบใบประเมินจากแฟ้มแบบประเมินผลประจำปี 2553

-ตรวจสอบสถิติการขาดลามาสายของพนักงานในโรงพยาบาลพญาไท2

-แยกประเภทใบลาแล้วนำจัดเก็บเข้าแฟ้มตามเดือน

ปัญหาที่พบ

-คีย์ใบลาหยุดงานผิดพลาด

-ไม่สามารถรู้สถานที่ที่เดินไปส่งเอกสารได้ถูกต้อง

-ตรวจสอบสถิติการขาดลามาสายได้ล่าช้า

แก้ไขปัญหาโดย

-เพิ่มความรอบคอบในการทำงานให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

-สอบถามทางที่เดินไปส่งเอกสารจากพี่ร่วมงานแล้วจดบันทึกเพื่อความแม่นยำ

-เพิ่มความละเอียดในงาน การตรวจสอบความถูกต้อง

ประโยชน์ที่ได้รับ

-ฝึกความรับผิดชอบงาน

-ฝึกความรอบคอบในการทำงาน

-รู้จักการทำงานเป็นทีม ที่ต้องช่วยเหลือกัน

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สัปดาห์ที่ 1

วันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2553


การปฏิบัติงาน -ทำป้ายชื่อ นำกระดาษรายชื่อใส่ในซองพลาสติกจำนวน 128 รายชื่อ
-ตัดป้ายชื่อสติกเกอร์แล้วแปะจำนวน 128 รายชื่อ
-คัดแยกประเภทเอกสารและประทับวันที่
-คีย์ใบลาลงในโปรแกรม TA และ EXCEL
-ฝึกพูดรับโทรศัพท์
-คีย์รหัสพนักงานทุกใบแจ้งรายการเพื่อการหักลดหย่อนใน Microsoft Excel
-หาแบบฟอร์มกำหนดเป้าหมายผลงานจากแฟ้มรายชื่อ
-นำเอกสารแบ่งแยกตามตัวอักษรแล้วนำเข้าแฟ้ม จำนวน 82 แผ่น
-ตรวจสอบรายชื่อตามเอกสารต่างๆให้ถูกต้อง
-นำใบเบิกค่าล่วงเวลาพนักงานมาเขียนลงในสมุด จำนวน 113 แผ่น พร้อมแบ่งแยกแผนก
-เอาใบลาใส่แฟ้มประวัติ
-ปิดผนึกเอกสาร 30 ซอง
-ถ่ายเอกสาร
-เดินส่งเอกสาร ชั้น19
-แบ่งแยกใบลา ตามเดือน ประเภทการลา แล้วเก็บเข้าใส่แฟ้มประจำเดือน
-ตรวจสอบเสื้อสูท จำนวน 41 ตัว


ปัญหาที่ได้พบ
-มีการทำงานที่ล่าช้า เพราะเช็คเอกสารหลายรอบ


วิธีแก้ปัญหา
-ควรมีความรอบคอบ และมีสมาธิในการทำงานให้มากขึ้น


ประโยชน์ที่ได้รับ
-ฝึกความรอบคอบ รู้จักรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
-ฝึกการคิดวิเคราะห์การทำงานให้เป็นระบบ
-ฝึกการแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยตนเอง

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ

สรุปสิ่งที่ได้จากการเรียน การเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ 3

1. ได้เรียนรู้วิธีการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน
2. ทำให้เป็นคนตรงต่อเวลา
3. ได้ความเป็นระเบียบ
4. สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ในอนาคต
5. ปรับตัวเข้ากับเพื่อนได้
6. ความตรงต่อเวลา
7. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่

DTS 11-08/09/2009

sorting

การเรียงลำดับ (sorting) เป็นการจัดให้เป็นระเบียบ
มีแบบแผน ช่วยให้การค้นหาสิ่งของหรือข้อมูล ซึ่งจะสามารถ
กระทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น การค้นหา
ความหมายของคำในพจนานุกรม

การเรียงลำดับอย่างมีประสิทธิภาพ
ควรจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
(1) เวลาและแรงงานที่ต้องใช้ในการเขียนโปรแกรม
(2) เวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องใช้ในการทำงานตาม
โปรแกรมที่เขียน
(3) จำนวนเนื้อที่ในหน่วยความจำหลักมีเพียงพอ
หรือไม่
วิธีการเรียงลำดับสามารถแบ่งออกเป็น
2 ประเภท คือ
(1)การเรียงลำดับแบบภายใน (internal sorting)
เป็นการเรียงลำดับที่ข้อมูลทั้งหมดต้องอยู่ใน
หน่วยความจำหลัก
(2) การเรียงลำดับแบบภายนอก
(external sorting) เป็นการเรียงลำดับข้อมูลที่
เก็บอยู่ในหน่วยความจำสำรอง

DTS 10-02/09/2009

กราฟ (Graph)

เป็นโครงสร้างข้อมูลแบบไม่ใช่เชิงเส้นอีกชนิดหนึ่ง

กราฟเป็นโครงสร้างข้อมูลที่มีการนำไปใช้ในงาน

ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาที่ค่อนข้างซับซ้อน

นิยามของกราฟ
กราฟ เป็นโครงสร้างข้อมูลแบบไม่ใช่เชิงเส้น
ที่ประกอบ ด้วยกลุ่มของสิ่งสองสิ่งคือ
(1) โหนด (Nodes)
(2) เส้นเชื่อมระหว่างโหนด เรียก เอ็จ (Edges)
การแทนกราฟในหน่วยความจำ
ในการปฏิบัติการกับโครงสร้างกราฟ สิ่งที่
ต้องการจัดเก็บ จากกราฟโดยทั่วไปก็คือ เอ็จ ซึ่ง
เป็นเส้นเชื่อมระหว่างโหนดสองโหนด มีวิธีการ
จัดเก็บหลายวิธี วิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมา
ที่สุดการเก็บเอ็จในแถวลำดับ 2 มิติ
กราฟที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
อาจจะใช้วิธีแอดจาเซนซีลิสต์
(Adjacency List) ซึ่งเป็นวิธีที่คล้ายวิธี
จัดเก็บกราฟด้วยการเก็บโหนดและพอยน์
เตอร์ แต่ต่างกันตรงที่ จะใช้ ลิงค์ลิสต์แทน
เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข
การท่องไปในกราฟ
การท่องไปในกราฟ (graph traversal) คือ
กระบวนการเข้าไปเยือนโหนดในกราฟ โดยมีหลักในการ
ทำงานคือ แต่ละโหนดจะถูกเยือนเพียงครั้งเดียว

สำหรับเทคนิคการท่องไปในกราฟมี 2 แบบ คือ
1. การท่องแบบกว้าง (Breadth First Traversal)
วิธีนี้ทำโดยเลือกโหนดที่เป็นจุดเริ่มต้น
2. การท่องแบบลึก (Depth First Traversal)
การทำงานคล้ายกับการท่องทีละระดับของทรี

DTS 08-25/08/2552

เรื่อง Tree
ทรี (Tree) เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ความสัมพันธ์
ระหว่าง โหนดจะมีความสัมพันธ์ลดหลั่นกันเป็นลำดับ
ชั้น (Hierarchical Relationship)
ได้มีการนำรูปแบบทรีไปประยุกต์ใช้ในงาน
ต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย ส่วนมากจะใช้สำหรับแสดง
ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล
แต่ละโหนดจะมีความสัมพันธ์กับโหนดใน
ระดับที่ต่ำลงมา หนึ่งระดับได้หลาย ๆ โหนด
เรียกโหนดดังกล่าวว่า โหนดแม่
โหนดที่อยู่ต่ำกว่าโหนดแม่อยู่หนึ่งระดับ
เรียกว่า โหนดลูก
โหนดที่อยู่ในระดับสูงสุดและไม่มีโหนดแม่
เรียกว่า โหนดราก
โหนดที่มีโหนดแม่เป็นโหนดเดียวกัน
เรียกว่า โหนดพี่น้อง
กว่า โหนดพี่น้อง (Siblings)
โหนดที่ไม่มีโหนดลูก เรียกว่า
โหนดใบ
เส้นเชื่อมแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง
โหนดสองโหนด
เรียกว่า กิ่ง
การแทนทรีด้วยโหนดขนาดเท่ากันค่อนข้าง
ใช้เนื้อที่จำนวนมาก เนื่องจากแต่ละโหนดมี
จำนวนโหนดลูกไม่เท่ากันหรือบางโหนดไม่มี
โหนดลูกเลย
ถ้าเป็นทรีที่แต่ละโหนดมีจำนวน
โหนดลูกที่แตกต่างกันมาก จะเป็นการสิ้นเปลือง
เนื้อที่ในหน่วยความจำโดยเปล่าประโยชน์
โครงสร้างทรีที่แต่ละโหนดมีลิงค์ฟิลด์
แค่สองลิงค์ฟิลด์ ซึ่งช่วยให้ประหยัดเนื้อที่ใน
การจัดเก็บได้มาก เรียกโครงสร้างทรี
ที่แต่ละโหนดมีจำนวนโหนดลูกไม่เกินสอง
หรือแต่ละโหนดมีจำนวน
ทรีย่อยไม่เกินสองนี้ว่า ไบนารีทรี (Binary Tree)

DTS 07-11/08/2552

เรื่อง Queue
คิว (Queue) เป็นโครงสร้างข้อมูลแบบเชิงเส้นหรือ
ลิเนียร์ลิสต์ซึ่งการเพิ่มข้อมูลจะกระทำที่ปลายข้างหนึ่งซึ่ง
เรียกว่าส่วนท้ายหรือเรียร์ (rear) และการนำข้อมูลออกจะ
กระทำที่ปลายอีกข้างหนึ่งซึ่งเรียกว่า ส่วนหน้า หรือฟรอนต์
(front)
ลักษณะการทำงานของคิวเป็นลักษณะของการเข้าก่อน
ออกก่อนหรือที่เรียกว่า FIFO (First In First Out)
การทำงานของคิว
การใส่สมาชิกตัวใหม่ลงในคิว
เรียกว่า Enqueue ซึ่งมีรูปแบบคือ
enqueue (queue, newElement)
หมายถึง การใส่ข้อมูล
newElement ลงไปที่ส่วนเรียร์
การแทนที่ข้อมูลของคิว
สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. การแทนที่ข้อมูลของคิวแบบลิงค์ลิสต์
2. การแทนที่ข้อมูลของคิวแบบอะเรย์
การดำเนินการเกี่ยวกับคิว
การดำเนินการเกี่ยวกับคิว ได้แก่
1. Create Queue 6. Empty Queue
2. Enqueue 7. Full Queue
3. Dequeue 8. Queue Count
4. Queue Front 9. Destroy Queue
5. Queue Rear

DTS 06-10/08/2009

เรื่อง Stack
สแตก (Stack)

เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ข้อมูลแบบลิเนียร์ลิสต์ ที่มีคุณสมบัติที่ว่า การเพิ่มหรือลบข้อมูลในสแตก จะกระทำที่ ปลายข้างเดียวกัน ซึ่งเรียกว่า Top ของสแตก (Top Of Stack) ลักษณะที่สำคัญของสแตกคือ ข้อมูลที่ใส่หลังสุดจะถูกนำออกมา จากสแตกเป็นลำดับแรกสุด เรียกคุณสมบัตินี้ว่า LIFO (Last In First Out)

การดำเนินงานพื้นฐานของสแตก
การทำงานต่าง ๆ ของสแตกจะกระทำที่ปลายข้างหนึ่งของ สแตกเท่านั้น ดังนั้นจะต้องมีตัวชี้ตำแหน่งข้อมูลบนสุดของสแตกด้วยการทำงานของสแตกจะประกอบด้วย
กระบวนการ 3 กระบวนการที่สำคัญ คือ
1.Push คือ การนำข้อมูลใส่ลงไปในสแตกเช่น สแตก s ต้องการใส่ข้อมูล i ในสแตก จะได้ push (s,i) คือ ใส่ข้อมูล i ลงไปที่ทอปของสแตก s ในการเพิ่มข้อมูลลงในสแตก จะต้องทำการตรวจสอบว่าสแตก เต็มหรือไม่ ถ้าไม่เต็มก็สามารถเพิ่มข้อมูลลงไปในสแตกได้ แล้วปรับตัวชี้ตำแหน่งให้ไปชี้ที่ตำแหน่งข้อมูลใหม่ ถ้าสแตกเต็ม (Stack Overflow) ก็จะไม่สามารถเพิ่มข้อมูลเข้าไปในสแตกได้อีก
2. Pop คือ การนำข้อมูลออกจากส่วนบนสุดของสแตกเช่น ต้องการนำข้อมูลออกจากสแตก s
ไปไว้ที่ตัวแปร iจะได้ i = pop (s)การนำข้อมูลออกจากสแตก ถ้าสแตกมีสมาชิกเพียง 1ตัว แล้วนำสมาชิกออกจากสแตก จะเกิดสภาวะสแตกว่าง (Stack Empty) คือ ไม่มีสมาชิกอยู่ในสแตกเลย
แต่ถ้าไม่มีสมาชิกในสแตก แล้วทำการ pop สแตก จะทำให้ เกิดความผิดพลาดที่เรียกว่า Stack Underflowเพราะฉะนั้นก่อนนำข้อมูลออกจากสแตกจะต้องตรวจสอบ ก่อนว่าสแตกว่างหรือเปล่า จึงจะนำข้อมูลออกจากสแตกได้และ ปรับตัวชี้ตำแหน่งให้ไปชี้ตำแหน่งของข้อมูลที่ต่อจากข้อมูลที่ถูกนำ ออกไป
3. Stack Top เป็นการคัดลอกข้อมูลที่อยู่บนสุดของสแตก แต่ไม่ได้นำเอาข้อมูลนั้นออกจากสแตก

การแทนที่ข้อมูลของสแตกสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบลิงค์ลิสต์
2. การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบอะเรย์
การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบลิงค์ลิสต์จะประกอบไปด้วย2 ส่วน คือ
1. Head Node จะประกอบไปด้วย 2ส่วนคือ top pointer และจำนวนสมาชิกในสแตก
2. Data Node จะประกอบไปด้วยข้อมูล (Data) และพอยเตอร์ ที่ชี้ไปยังข้อมูลตัวถัดไป


การดำเนินการเกี่ยวกับสแตก
การดำเนินการเกี่ยวกับสแตก ได้แก่
1. Create Stack 5. Empty Stack
2. Push Stack 6. Full Stack
3. Pop Stack 7. Stack Count
4. Stack Top 8. Destroy Stack

1. Create Stack จัดสรรหน่วยความจำให้แก่ Head Node และส่งค่าตำแหน่งที่ชี้ไปยัง Head ของสแตกกลับมา
2. Push Stack การเพิ่มข้อมูลลงไปในสแตก
3. Pop Stack การนำข้อมูลบนสุดออกจากสแตก
4. Stack Top เป็นการคัดลอกข้อมูลที่อยู่บนสุดของสแตก โดยไม่มีการลบข้อมูลออกจากสแตก
5.Empty Stack เป็นการตรวจสอบการว่างของสแตก เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการนำข้อมูลออกจากสแตกที่เรียกว่า Stack Underflow
6. Full Stack เป็นการตรวจสอบว่าสแตกเต็มหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการนำข้อมูลเข้าสแตกที่เรียกว่า Stack Overflow
7. Stack Count เป็นการนับจำนวนสมาชิกในสแตก
8. Destroy Stack เป็นการลบข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในสแตก

การประยุกต์ใช้สแตก
การประยุกต์ใช้สแตก จะใช้ในงานด้านปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขั้นตอนการทำงานต้องการเก็บข่าวสารอันดับแรกสุดไว้ใช้หลังสุด เช่น การทำงานของโปรแกรมแปลภาษานำไปใช้ในเรื่องของการโปรแกรมที่เรียกใช้โปรแกรมย่อย การคำนวณนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ และรีเคอร์ชั่น (Recursion)
การคำนวณนิพจน์ทางคณิตศาสตร์
ในการเขียนนิพจน์ทางคณิตศาสตร์เพื่อการคำนวณ จะต้องคำนึงถึงลำดับความสำคัญของเครื่องหมายสำหรับการคำนวณด้วยโดยทั่วไปนิพจน์ทางคณิตศาสตร์สามารถเขียนได้ 3 รูปแบบ คือ
1. นิพจน์ Infix นิพจน์รูปแบบนี้ operatorจะอยู่ตรงกลางระหว่างตัวถูกดำเนินการ 2 ตัว
2. นิพจน์ Postfix นิพจน์รูปแบบนี้ จะต้องเขียนตัวถูกดำเนินการตัวที่ 1 และ 2 ก่อน แล้วตามด้วย operator
3. นิพจน์ Prefix นิพจน์รูปแบบนี้ จะต้องเขียน operatorก่อนแล้วตามด้วยตัวถูกดำเนินการตัวที่ 1 และ 2

DTS 05-28/07/2009

เรื่อง Linked List

ลิงค์ลิสต์ (Linked List) เป็นวิธีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องของอิลิเมนต์ต่าง ๆ โดยมีพอยเตอร์เป็นตัวเชื่อมต่อแต่ละอิลิเมนท์ เรียกว่าโนด (Node) ซึ่งในแต่ละโนดจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือData จะเก็บข้อมูลของอิลิเมนท์ และส่วนที่สอง คือ Link Field จะทำหน้าที่เก็บตำแหน่งของโนดต่อไปในลิสต์

ในส่วนของ data อาจจะเป็นรายการเดี่ยวหรือเป็นเรคคอร์ดก็ได้ในส่วนของ link จะเป็นส่วนที่เก็บตำแหน่งของโหนดถัดไป ในโหนดสุดท้ายจะเก็บค่า Nullซึ่งไม่ได้ชี้ไปยังตำแหน่งใด ๆ เป็นตัวบอกการสิ้นสุดของลิสต์

ในลิงค์ลิสต์จะมีตัวแปรสำหรับชี้ตำแหน่งลิสต์ (List pointer variable)ซึ่งเป็นที่เก็บตำแหน่งเริ่มต้นของลิสต์ ซึ่งก็คือโหนดแรกของลิสต์นั่นเอง ถ้าลิสต์ไม่มีข้อมูล ข้อมูลในโหนดแรกของลิสต์จะเป็นNull

โครงสร้างข้อมูลแบบลิงค์ลิสต์โครงสร้างข้อมูลแบบลิงค์ลิสต์จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1. Head Structure จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนได้แก่ จำนวนโหนดในลิสต์ (Count) พอยเตอร์ที่ชี้ไปยังโหนดที่เข้าถึง (Pos) และพอยเตอร์ที่ชี้ไปยังโหนดข้อมูลแรกของลิสต์ (Head)

2. Data Node Structure จะประกอบไปด้วยข้อมูล(Data) และพอยเตอร์ที่ชี้ไปยังข้อมูลตัวถัดไป

กระบวนงานและฟังก์ชั่นที่ใช้ดำเนินงานพื้นฐาน

1. กระบวนงาน Create Listหน้าที่ สร้างลิสต์ว่างผลลัพธ์ ลิสต์ว่าง

2. กระบวนงาน Insert Nodeหน้าที่เพิ่มข้อมูลลงไปในลิสต์บริเวณตำแหน่งที่ต้องการข้อมูลนำเข้า ลิสต์ ข้อมูล และตำแหน่งผลลัพธ์ ลิสต์ที่มีการเปลี่ยนแปลง

3. กระบวนงาน Delete Nodeหน้าที่ ลบสมาชิกในลิสต์บริเวณตำแหน่งที่ต้องการข้อมูลนำเข้า ข้อมูลและตำแหน่งผลลัพธ์ ลิสต์ที่มีการเปลี่ยนแปลง

4. กระบวนงาน Search listหน้าที่ ค้นหาข้อมูลในลิสต์ที่ต้องการข้อมูลนำเข้าลิสต์ผลลัพธ์ ค่าจริงถ้าพบข้อมูล ค่าเท็จถ้าไม่พบข้อมูล

5. กระบวนงาน Traverseหน้าที่ ท่องไปในลิสต์เพื่อเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลนำเข้าลิสต์ผลลัพธ์ ขึ้นกับการประมวลผล เช่นเปลี่ยนแปลงค่าใน node , รวมฟิลด์ในลิสต์ ,คำนวณค่าเฉลี่ยของฟิลด์ เป็นต้น

6. กระบวนงาน Retrieve Nodeหน้าที่ หาตำแหน่งข้อมูลจากลิสต์ข้อมูลนำเข้าลิสต์ผลลัพธ์ ตำแหน่งข้อมูลที่อยู่ในลิสต์

7. ฟังก์ชั่น EmptyListหน้าที่ ทดสอบว่าลิสต์ว่างข้อมูลนำเข้า ลิสต์ผลลัพธ์ เป็นจริง ถ้าลิสต์ว่างเป็นเท็จ ถ้าลิสต์ไม่ว่าง

8. ฟังก์ชั่น FullListหน้าที่ ทดสอบว่าลิสต์เต็มหรือไม่ข้อมูลนำเข้าลิสต์ผลลัพธ์ เป็นจริง ถ้าหน่วยความจำเต็มเป็นเท็จ ถ้าสามารถมีโหนดอื่น

9. ฟังก์ชั่น list countหน้าที่ นับจำนวนข้อมูลที่อยู่ในลิสต์ข้อมูลนำเข้าลิสต์ผลลัพธ์ จำนวนข้อมูลที่อยู่ในลิสต์

10. กระบวนงาน destroy listหน้าที่ ทำลายลิสต์ข้อมูลนำเข้า ลิสต์ผลลัพธ์ ไม่มีลิสต์

Linked List แบบซับซ้อน

1. Circular Linked List เป็นลิงค์ลิสต์ที่สมาชิกตัวสุดท้ายมีตัวชี้ (list) ชี้ไปที่สมาชิกตัวแรกของลิงค์ลิสต์ จะมีการทำงานไปในทิศทางเดียวเท่านั้นคือเป็นแบบวงกลม
2. Double Linked List เป็นลิงค์ลิสต์ที่มีทิศทางการทำงานแบบ 2 ทิศทาง ในลิงค์ลิสต์แบบ 2ทิศทาง ส่วนข้อมูลจะมีตัวชี้ไปที่ข้อมูลก่อนหน้า (backward pointer) และตัวชี้ข้อมูลถัดไป(forward pointer)

DTS 04-20/07/2009

(String)

สตริง (String) หรือ สตริงของอักขระ (CharacterString)

เป็นข้อมูลที่ประกอบไปด้วย ตัวอักษร ตัวเลขหรือเครื่องหมายเรียงติดต่อกันไป รวมทั้งช่องว่าง

สตริงกับอะเรย์สตริง คือ อะเรย์ของอักขระ
การกำหนดสตริงการกำหนดสตริงทำได้หลายแบบ คือ

1. กำหนดเป็นสตริงที่มีค่าคงตัว(String Constants)

2. กำหนดโดยใช้ตัวแปรอะเรย์หรือพอยเตอร์

การกำหนดค่าคงตัวสตริงสามารถกำหนดได้ทั้งนอกและในฟังก์ชัน

เมื่อกำหนดไว้นอกฟังก์ชัน

ชื่อค่าคงตัวจะเป็นพอยเตอร์ชี้ไปยังหน่วยความจำที่เก็บสตริงนั้น

เมื่อกำหนดไว้ในฟังก์ชัน จะเป็นพอยเตอร์ไปยังหน่วยความจำที่เก็บตัวมันเอง

การกำหนดค่าคงตัวสตริงให้แก่ตัวแปรพอยต์เตอร์และอะเรย์

สามารถกำหนดค่าคงตัวสตริงให้พอยเตอร์หรืออะเรย์ได้ในฐานะค่าเริ่มต้น
การกำหนดตัวแปรสตริงในการกำหนดตัวแปรของสตริง อาศัยหลักการของอะเรย์

เพราะ สตริงก็คืออะเรย์ของอักขระที่ปิดท้ายด้วย null character (\0)

และมีฟังก์ชันพิเศษสำหรับทำงานกับสตริงโดยเฉพาะ

อะเรย์ของสตริงถ้าหากมีสตริงจำนวนมาก

ก็ควรจะทำให้เป็นอะเรย์ของสตริง เพื่อที่จะเขียนโปรแกรมได้สะดวก

การสร้างอะเรย์ของสตริง สามารถสร้างได้ทั้งแบบที่ให้ค่าเริ่มต้นและแบบที่กำหนดเป็นตัวแปร
อะเรย์ของสตริงที่ยาวไม่เท่ากันทำได้เฉพาะเมื่อมีการกำหนดค่าเริ่มต้นเท่านั้น

ฟังก์ชัน puts ( ) ใช้ในการพิมพ์สตริงออกทางจอภาพ

โดยการผ่านค่าแอดเดรสของสตริงไปให้เท่านั้นข้อสังเกตการกำหนดอะเรย์ของสตริงในลักษณะอย่างนี้

ไม่ใช่อะเรย์ที่แท้จริงตามหลักการของอะเรย์ เนื่องจากขนาดของช่องในอะเรย์ไม่เท่ากัน

แต่อนุโลมให้ถือว่าเป็นอะเรย์

อะเรย์ของสตริงที่ยาวเท่ากัน

อะเรย์ในลักษณะนี้จะถือว่าเป็นอะเรย์ที่แท้จริงและสามารถกำหนดได้ทั้งเมื่อมีการให้ค่าเริ่มต้น

และเมื่อกำหนดเป็นตัวแปร โดยดำเนินการตามแบบการกำหนดอะเรย์ 2 มิติ

การกำหนดตัวแปรในลักษณะนี้ จะแตกต่างจากการกำหนดตัวแปรแบบความยาวไม่เท่ากัน

คือ ในแบบความยาวไม่เท่ากัน ท้ายของสตริงจะเครื่องจะเติม nullcharacter

ให้เพียงตัวเดียว แต่ในแบบความยาวเท่ากัน จะเติม null character ให้จนครบทุกช่อง

DTS03-30/06/2009

สรุปบทเรียนวิชาโครงสร้างข้อมูล
ได้รับความรู้เรื่อง Array and Record

Array เป็นโครงสร้างที่เรียกว่า Linear List มีลักษณะคล้ายเซ็ตในคณิตศาสตร์ มีรูปแบบข้อมูลเป็นแบบเดียวกัน สมาชิกแต่ละตัวใช้เนื้อที่จัดเก็บที่มีขนาดเท่ากัน เรียงต่อเนื่องในหน่วยความจำหลัก

การกำหนด Array

จะต้องกำหนดทั้งชื่อ Array พร้อม Subscript เป็นตัวกำหนดขอบเขตของ Array สามารถมีได้มากกว่า 1 ตัว Subscript จะเป็นตัวบอกมิติ ถ้ามากกว่า 1 ตัวขึ้นไปเรียก Array หลายมิติ การกำหนด Supscript แต่ละตัวจะมีค่าสูงสุดและต่ำสุด

จำนวนสมาชิกหรือขนาดอะเรย์ n มิติ หาได้จาก

ขนาดของตัวอะเรย์ = ผลคูณของขนาดของ Subscript แต่ละตัว

การจัดเก็บอะเรย์ในหน่วยความจำหลักจะพิจารณาตามประเภทของอะเรย์ในมิตินั้นๆ

การประกาศอาร์กิวเมนต์ในฟังก์ชั่นเป็นอะเรย์

ถ้าเป็นอะเรย์มิติเดียว สามารถทำได้มั้งหมด 3 วิธี

1. มีการประกาศขนาดของอะเรย์ที่นำหน้าที่ในการรับค่า

2.ไม่ต้องมีการประกาศขนาดของอะเรย์ที่ทำหน้าที่ในการรับค่า

3.ตัวแปรที่ทำหน้าที่รับค่าถูกกำหนดเป็นพอยน์เตอร์

Record or Structure

เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ประกอบขึ้นมาจากข้อมูลพื้นฐานต่างประเภทกัน รวมเป็น 1 ชุดข้อมูล คือ

จะประกอบด้วย data element หรือ field ต่างประเภทกันอยู่รวมกัน ในภาษา c ก็คือการกำหนดข้อมูลเป็นรูปแบบของ Structure

Structure คือโครงสร้างที่สมาชิกแต่ละตัวมีประเภทข้อมูลแตกต่างได้ โดยที่ใน Structure อาจมีสมาชิกเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม อักขระ อะเรย์ หรือพอยเตอร์ หรือแม้แต่ Structure ด้วยกันก็ได้

การประกาศสมาชิกแต่ละตัวของ Structure

สมาชิกแต่ละตัวของ Structure จะเป็นตัวแปรธรรมดา พอยเตอร์ อะเรย์หรือ Structure ตัวอื่นก็ได้ โดยชื่อของสมาชิกแต่ละตัวต้องแตกต่างกัน

การกำหนดให้ตัวแปรมีโครงสร้างข้อมูลเหมือนกับ Structure ที่ประกาศไว้แล้ว

สามารถกำหนดให้ตัวแปรอื่นๆมีโครงสร้างข้อมูลเหมือนกับ Structure ที่ประกาศไว้โดยใช้คำสั่ง Struc

เราจะประกาศ Structure หนึ่งเป็นตัวสมาชิกของอีก Structure หนึ่งได้โดยจะต้องประกาศ Structureที่จะนำไปฝังไว้ก่อนหน้า Structureตัวนอก

การกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับสมาชิกของ Structure

สามารถค่าเริ่มต้นให้กับสมาชิกของ Structure ๆด้โดยค่าเริ่มต้นที่จะกำหนดให้กับสมาชิกตัวใด จะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ ตรงกับสมาชิกตัวนั้นค่าเริ่มต้นจะต้องอยู่ในวงเล็บปีกกาปละข้อมูลค่าเริ่มต้นแต่ละตัวแยกกันด้วยเครื่องหมาย ,

Structure กับ Pointer

เราสามารถที่จะอ้างถึงที่อยู่เริ่มต้นของ Structure ได้เหมือนกับตัวแปรอื่นๆ โดยใช้ตัวดำเนินการ &

ดังนั้น ถ้า variable เป็นตัวแปรประเภท Structure & variable จะเป็นเลขที่อยู่เริ่มต้นของตัวแปร นอกจากนี้ยังสามารถประกาศตัวแปรพอยเติร์สำหรับ Structure ดังนี้

type *ptvar

type คือ ประเภทข้อมูลที่เป็น Structure

ptvar คือ ชื่อของตัวแปรพอยเตอร์

การผ่าน Structure ให้ฟังก์ชั่น

ประเภทของการส่งผ่าน Structure ให้ฟังก์ชั่น มี 2 ประเภท คือ

1.ส่งสมาชิกแต่ละตัวของ Structure

2.ส่งทั้ง Structure

Pointer

เป็นตัวแปรชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เก็บตำแหน่งที่อยู่ของตัวแปรที่อยู่ในหน่วยความจำ

DTS 02-23/06/2009

#include "stdio.h"
#include "string.h"
void main()
{
struct boot
{
char firstname[20];
char surname[30];
int code_member;
char color[15];
int size;char type[20];
float price;
float discount;
}sale;
strcpy(sale.firstname,"patchanit");
strcpy(sale.surname,"chunpasent");
sale.code_member=11111;
strcpy(sale.color,"pink");
sale.size=6;
strcpy(sale.type,"boot");
sale.price=850;
sale.discount=50;
printf("****BOOT****\n");
printf("Firstname: %s\n",sale.firstname);
printf("Surname: %s\n",sale.surname);
printf("Code_Member: %d\n",sale.code_member);
printf("Color: %s\n",sale.color);
printf("Size: %d\n",sale.size);
printf("Type: %s\n",sale.type);
printf("Price: %.2f\n",sale.price);
printf("Discount: %.2f\n",sale.discount);
}

สิ่งที่ได้รับจากการเรียนวิชาโครงสร้างข้อมูล :
ได้รับความรู้ ความสามารถ และสามารถไปปรับเปลี่ยนนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
และได้รู้ว่าโครงสร้างข้อมูลเป็นอย่างไร

DTS 01-16/06/2009

ชื่อ : นางสาว พัชรานิษฐ
นามสกุล : ชั้นประเสริฐ
รหัสประจำตัว : 50132792026
ศึกษาอยู่ที่ : มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต
หลักสูตร : การบริหารธุรกิจ (คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)
คณะ : วิทยาการจัดการ

Firstname : Miss Patchanit
Surname : Chunpasent
Id : 50132792026